เคทีซีจุดประกายความเท่าเทียมทุกมิติ ชูเวที Beyond Rainbow ขับเคลื่อน DEI

 

เคทีซีจุดประกายความเท่าเทียมทุกมิติ ชูเวที Beyond Rainbow ขับเคลื่อน DEI

เคทีซีเปิดเวทีเสวนา “Beyond Rainbow” ดึงผู้เชี่ยวชาญจากภาคแรงงาน ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ร่วมถอดรหัสความเข้าใจด้าน DEI (Diversity  Equity และ Inclusion) พร้อมผลักดันแนวคิด Pink Economy ให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่

คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดแรงงานทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยมีสาเหตุจากการที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพล และทดแทนแรงงานบางประเภท นอกจากนี้ความต้องการด้านทักษะแรงงานใหม่ การทำงานแบบยืดหยุ่นกลายเป็นมาตรฐานของการทำงานยุคใหม่ที่หลายคนต้องการ แต่สิ่งที่ยังเป็นความท้าทายด้านแรงงานคือ ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความหลากหลาย เช่น กลุ่ม LGBTQ+ กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มผู้พิการที่ยังถูกมองข้าม ข้อมูลเชิงลึกจาก จ๊อบส์             ดีบี (JobsDB) พบว่า กลุ่มผู้สมัครงานที่มีความหลากหลายยังรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม เพราะองค์กรส่วนใหญ่ยังไม่มีการประกาศหรือสื่อสารนโยบายด้าน DEI – Diversity (ความหลากหลาย)  Equity (ความเท่าเทียม) และ  Inclusion (การมีส่วนร่วม) อย่างชัดเจน และในการประกาศรับสมัครงานแต่ละครั้งหลายบริษัทยังมีอคติแฝง เช่น คำที่สะท้อนถึงอายุ เพศ หรือภาพลักษณ์

DEI ที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทางของการสมัครงาน

จ๊อบส์ ดีบี (JobsDB)  ให้คำแนะนำว่า องค์กรควรเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระบบรับสมัครงาน โดยใช้ภาษาที่เป็นกลาง หลีกเลี่ยงการตั้งคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถ เช่น เพศ อายุ หรือสถานภาพสมรส รวมถึงการใช้เครื่องมือช่วยเขียนประกาศรับสมัครงาน (Job Ad Writing Tool) เพื่อช่วยลดอคติที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และนำไปสู่การได้พนักงานที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามภาพรวมของตลาดแรงงานที่ยังมีความท้าทายในการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด  (มหาชน) ได้ดำเนินการ และใช้แนวทาง DEI ในการดูแลพนักงานในองค์กรในทุกมิติ

คุณปิยะสุดา แคว้นนนทรีย์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานทรัพยากรบุคคล “เคทีซี”  กล่าวว่า      เคทีซีให้ความสำคัญทั้งมิติทางกายภาพและจิตใจ โดยมีการปรับปรุงสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกตามความต้องการของพนักงาน พร้อมสร้างวัฒนธรรมองค์กรในฐานะ Trusted Organization และเปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็น

ออกแบบสวัสดิการจากความเข้าใจตอบรับไลฟ์สไตล์พนักงาน

ปัจจุบัน เคทีซีมีพนักงานประมาณ 1,800 คน โดย 70% เป็นเพศหญิง และกว่า 70% อยู่ในกลุ่ม Gen Y โดยพนักงานทุกคนได้รับสิทธิ์เข้าถึงสวัสดิการอย่างเท่าเทียมโดยไม่จำกัดเพศ นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่ให้พนักงานทุกระดับมีสิทธิ์แสดงความเห็นได้โดยไม่จำกัด เช่น การเปิดรับฟังความคิดเห็นในองค์กรของพนักงานทุกคน หรือเมื่อมี CEO LIVE Talk พนักงานสามารถถามคำถามกับซีอีโอได้โดยไม่ถูกปิดกั้น โดยเคทีซีมีวัฒนธรรมที่เรียกว่า Junior Speak First การให้โอกาสพนักงานที่เด็กกว่า ได้แสดงความคิดเห็นก่อน รวมทั้งเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ การฝึกอบรม โดยไม่จำกัดระดับชั้น เพศ วัย นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้ผู้หญิงได้มีโอกาสเป็นผู้นำในตำแหน่งสูงสุด และผู้บริหารระดับสูงขององค์กรอีกด้วย

วัฒนธรรมที่เปิดกว้างส่งผล Employee Engagement พุ่งขึ้น Turnover ลดลง

นับตั้งแต่ปี 2560 เคทีซีได้ทำการสำรวจความผูกพันธ์ของพนักงานต่อองค์กร (Employee Engagement) โดยร่วมมือกับบริษัทที่ปรึกษาภายนอก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าข้อมูลที่ได้รับจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยและไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ โดยผลสำรวจล่าสุดในปี 2567 พบว่าคะแนนภาพรวมขององค์กรปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา และหัวข้อ Diversity & Inclusion เป็น 1 ใน 3 หมวดที่พนักงานรู้สึกพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเปิดรับความหลากหลายด้านเพศ อายุ เชื้อชาติ ภาษา การศึกษา และแนวคิด เป็นสิ่งที่ถูกฝังรากไว้ในวัฒนธรรมองค์กรของเคทีซีอย่างแท้จริง

         แนวทางของเคทีซีในการสร้างความเท่าเทียมทางสวัสดิการและวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับความหลากหลาย สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในบริบทของสังคมยุคใหม่ที่มองความหลากหลายไม่ใช่เพียงแค่การยอมรับแต่เป็นการทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับมุมมองของ รศ.โรจน์ คุณเอนก อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม อดีตรองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ชี้ให้เห็นว่าความท้าทายของสังคมในปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่การมีอยู่ของความหลากหลาย แต่คือการขาดความเข้าใจต่อความหลากหลาย

DEI เครื่องมือปูพื้น สู่สังคมแห่งความเข้าใจและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

      รศ.โรจน์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญเกี่ยวกับความหลากหลายในปัจจุบัน หลายคนยังคงติดอยู่ในกรอบความคิดแบบเดิมที่มองเพียงแค่ชาย หรือหญิง ขณะที่โลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบันมีมิติมากกว่านั้น ดังนั้นการปลูกฝังความเข้าใจเรื่องความหลากหลายจึงควรเริ่มต้นตั้งแต่ในห้องเรียน เพราะเป็นพื้นที่ของการเรียนรู้ร่วมกัน และเป็นการวางรากฐานสำหรับการใช้ชีวิตจริงในสังคม และในโลกของการทำงาน ซึ่งแนวทาง DEI เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้ในเรื่องดังกล่าวได้อย่างดียิ่ง

• Diversity (ความหลากหลาย): มุ่งปลูกฝังจิตสำนึกให้นักศึกษาตระหนักและให้คุณค่ากับความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ ความเชื่อ และวิถีชีวิต รวมถึงมีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยและความเข้าใจในด้านเพศสภาพ
• Equity (ความเท่าเทียม): ธรรมศาสตร์เชื่อว่าทุกคนควรได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม โดยบางคณะได้ริเริ่มจัดตั้งห้องน้ำแห่งความเสมอภาคที่ทุกเพศสามารถใช้งานร่วมกันได้
• Inclusion (การมีส่วนร่วม): ส่งเสริมให้นักศึกษาทุกคนเข้ามามีบทบาทในกิจกรรมและสร้างพื้นที่สาธารณะของมหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ในการสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

การวางรากฐานเรื่องความหลากหลายในสถาบันการศึกษา ถือเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจและสร้างการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติเมื่อเข้าสู่โลกการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของกลุ่มความหลากหลายนี้ หรือ Pink Economy

คุณคุณากร วาณิชย์วิรุฬห์ นักวิชาการอิสระ นักเล่าเรื่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์โลก และภูมิรัฐศาสตร์ กล่าวว่า  แก่นแท้ของวิชาประวัติศาสตร์คือการกำหนดความรับรู้ของผู้คนผ่านเรื่องเล่า เมื่อเนื้อหาหลักยังละเลยกลุ่มชายขอบเช่น แรงงานผู้หญิง หรือ LGBTQ+ จึงจำเป็นต้องมีการทบทวน ปรับปรุง และเขียนประวัติศาสตร์ใหม่เพื่อสร้างการมองเห็น และยอมรับความหลากหลายอย่างเท่าเทียม

สิงคโปร์ตัวอย่างประเทศพัฒนาแล้วชู DEI เป็นรากฐานของสังคมเที่ยงธรรม

ประเทศสิงคโปร์ถือเป็นตัวอย่างของการวางรากฐานการเท่าเทียมที่สำคัญเช่น การที่รัฐบาลสิงคโปร์ยกเลิกกฎหมายมาตรา 377A ซึ่งกำหนดโทษสำหรับความสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันอย่างสมบูรณ์เมื่อเดือนมกราคมปี 2566 ถึงแม้รัฐธรรมนูญของสิงคโปร์จะกำหนดว่าการสมรสที่กฎหมายยอมรับ ยังคงเป็นเรื่องระหว่างพลเมืองเพศชายกับเพศหญิงเท่านั้น แต่การไม่มองว่าความสัมพันธ์ทางเพศอันหลากหลายเป็นความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายอีกต่อไป ถือเป็นหลักประกันถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญ และจะนำไปสู่ความเท่าเทียมในมิติอื่นๆ ได้ในอนาคต ซึ่งหากประเทศไทยต้องการก้าวสู่การยอมรับความหลากหลายอย่างแท้จริงต้องเริ่มจากระบบการศึกษาโดยเฉพาะการออกแบบหลักสูตร ที่ควรปลูกฝังความเข้าใจตั้งแต่วัยเด็ก

Pink Economy ในไทยมีศักยภาพเติบโตสูง หากได้รับแรงสนับสนุนเชิงนโยบาย

การเปิดกว้างทางวัฒนธรรม และกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่มีผลบังคับใช้ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้บริโภค LGBTQ+ หรือเศรษฐกิจสีชมพู (Pink Economy) ในระดับภูมิภาคได้ โดยเฉพาะในภาคบริการที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะกลุ่มมากขึ้นเช่น การจัดงานเทศกาล โรงแรม ที่พัก รวมถึงการขยายไปสู่กิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเช่น การแพทย์ ความงาม เพื่อเจาะกลุ่มตลาดผู้ที่มีอัตลักษณ์หลากหลาย และมีกำลังซื้อสูง

อย่างไรก็ตามการทำให้เศรษฐกิจสีชมพู (Pink Economy) เติบโต ภาครัฐต้องทำงานเชิงลึกร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ชาวไทย และชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในฐานะฮับของความหลากหลายในระดับภูมิภาค เช่นมาตรการด้านความปลอดภัย รวมทั้งอำนวยความสะดวก และสร้างแรงจูงใจในให้บริษัทที่มีสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ เข้ามาตั้งสำนักงาน และการผลิตในประเทศไทย

ดร.ศศดิศ ชูชนม์ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน  (สสปท.)​​ กล่าวสรุปว่า หัวใจสำคัญของ DEI ไม่ได้หมายถึงการยอมรับ แต่คือ การข้ามเส้นแบ่งอคติแห่งความเป็น “เขา” และ “เรา”อันเปราะบางการเคารพในสิทธิของความเป็นมนุษย์ และความเป็นอื่นในมิติอัตลักษณ์ที่ซับซ้อน ที่ไม่ใช่ความต่างเพียงแค่เพศสภาพแต่หมายถึงประสบการณ์มวลรวมของชีวิตที่หลากหลายของแต่ละคนอย่างเท่าเทียมกัน

KTC Leads National DEI Conversation, Pushing the Boundaries Beyond Symbolism

 

KTC Drives Inclusive Change with ‘Beyond Rainbow’ Forum, Uniting Experts to Advance Diversity, Equity, and Inclusion in Thailand

Krungthai Card Public Company Limited (KTC) organized the ‘Beyond Rainbow’ seminar, bringing together voices from the labor market, private enterprises, and academic institutions to spark a national dialogue around Diversity, Equity, and Inclusion (DEI).  The event also spotlighted the growing importance of the Pink Economy as a force for inclusive economic growth in Thailand.  As society increasingly recognizes the role of diversity in driving innovation and long-term sustainability, the seminar focused on practical strategies to move beyond symbolic support and embed DEI into policies, culture, and everyday business operations.

Tackling Inequality in the Evolving Labor Market

Duangporn Prom-on, Managing Director of SEEK/JobsDB Thailand, opened the forum with insights on shifting workforce dynamics.  While technology, automation, and flexible work are reshaping the job market, she noted that marginalized groups—particularly LGBTQ+ individuals, the elderly, and people with disabilities—still face systemic barriers to equal opportunity.

JobsDB data shows that many candidates from diverse backgrounds lack confidence in receiving fair treatment due to the absence of clear DEI policies within organizations.  Furthermore, unconscious bias continues to appear in job descriptions through discriminatory language referencing age, gender, or appearance.

To combat this, she emphasized the importance of adopting inclusive recruitment practices—such as using neutral language and leveraging tools like a Job Ad Writing Tool—to attract a broader, more qualified pool of candidates.

KTC’s DEI Blueprint: Inclusion as a Core Value

Piyasuda Kwaennonsee, Head of Human Resources at KTC, shared the company’s approach to DEI, which centers on providing equal support for both physical and mental well-being, fostering a culture of openness and respect, and ensuring that all voices are heard.

With a workforce of approximately 1,800 employees, 70% of whom are women and mostly from the Gen Y generation, KTC has developed internal policies that promote equal access to welfare, training, and leadership pathways regardless of gender, age, or job level.  Initiatives like ‘Junior Speaks First’ and CEO LIVE Talk encourage dialogue across hierarchies, giving employees at all levels opportunities to voice opinions directly to the CEO.  The organization also actively promotes women’s leadership, empowering female employees to rise into senior and executive roles as part of its broader commitment to inclusive growth.

These efforts have produced tangible results: KTC’s latest employee engagement survey ranked Diversity & Inclusion among the top three categories for employee satisfaction, indicating a strong internal culture of respect and inclusion.

Education as the First Frontier of Inclusion

Assoc. Prof. Roj Khunanake, a lecturer at Thammasat University and former Vice President for Student Affairs, noted that one of the key societal challenges today is the outdated view that gender exists only in binary terms—male or female—when in fact, identity is far more diverse. He emphasized the importance of starting conversations about diversity, equity, and inclusion (DEI) in classrooms, where young people begin to form values that shape their future participation in society and the workforce. Education, he argued, plays a vital role in laying the groundwork for empathy, acceptance, and social cohesion.

• Diversity: Schools and universities should help students recognize and value differences in gender, race, belief systems, and lifestyles, while also promoting gender safety and awareness.
• Equity: Thammasat University exemplifies this with initiatives such as gender-neutral bathrooms, ensuring inclusive access for all.
• Inclusion: Students are encouraged to take part in campus life through activities and shared spaces that foster open dialogue and collaborative learning—preparing them for real-world diversity.

He concluded that embedding DEI in educational institutions not only nurtures more open-minded graduates but also contributes to broader economic inclusion—particularly in the growth of the Pink Economy, which thrives on diversity and forward-thinking policy.

Rewriting Narratives and Unlocking the Pink Economy

Kunakorn Wanichwirun, an independent scholar and expert in world history and geopolitics, emphasized that history is not merely a record of facts, but a powerful tool that shapes public perception through storytelling. When mainstream narratives continually overlook marginalized groups—such as women in the workforce or the LGBTQ+ community—there is a critical need to revisit, revise, and reframe history to ensure greater visibility and equal acceptance of all identities.

He pointed to Singapore as a regional example of how legal reform can lay the groundwork for broader social equity. In January 2023, the country repealed Section 377A, decriminalizing same-sex relationships—a move that, while not yet extending to marriage equality, represents a significant step toward protecting fundamental rights and advancing DEI.  Kunakorn stressed that for Thailand to truly embrace diversity, reforms must begin in the education system, with curricula designed to instill understanding and respect for diverse identities from an early age.

Looking ahead, he noted that Thailand is well-positioned to become a hub for the Pink Economy, thanks to cultural openness and legal progress such as marriage equality.  Opportunities abound particularly in the service and lifestyle sectors—including travel, hospitality, wellness, beauty, and healthcare—where customized offerings can meet the needs of LGBTQ+ consumers with strong purchasing power.

However, unlocking this potential requires greater collaboration between the government and private sector.  This includes building trust among both Thai and international communities through effective safety measures, supportive business environments, and incentives for companies that promote inclusivity. Doing so would not only boost Thailand’s competitiveness but also strengthen its role as a regional leader in diversity-driven economic growth.

DEI as a Pathway to Human-Centered Growth

Concluding the event, Dr. Sasadis Choochon, Director of the Strategy Office at the Thailand Institute of Occupational Safety and Health (T-OSH), reinforced that DEI is not just about tolerance—it’s about dismantling the “us vs. them” mindset and building systems where everyone’s identity is recognized, respected, and protected.

“True inclusion means creating space where people aren’t just allowed to exist, but where they’re empowered to thrive,” she said.