สยามพิวรรธน์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เชิญชมนิทรรศการทรงคุณค่า “จากพระราชปณิธาน...สู่มรดกแห่งแผ่นดิน” วันที่ 7-20 พ.ย.นี้ ณ สยามพารากอน
สยามพิวรรธน์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เชิญชมนิทรรศการทรงคุณค่า
“จากพระราชปณิธาน...สู่มรดกแห่งแผ่นดิน” วันที่ 7-20 พ.ย.นี้ ณ สยามพารากอน
กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดนิทรรศการ “จากพระราชปณิธาน...สู่มรดกแห่งแผ่นดิน”
เพื่อน้อมถวายความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ โดยการนำพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ
ตลอดพระชนม์ชีพ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย นำมาซึ่งประโยชน์สุข
และความเจริญมั่นคงของประเทศ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพที่ทรงเป็น “ผู้บุกเบิกแนวคิดความยั่งยืน”
ของประเทศไทยอย่างแท้จริง มาจัดแสดง ระหว่างวันที่ 7-20 พฤศจิกายน 2568 ณ อาร์ต จีเวล ชั้น 5 สยามพารากอน
นิทรรศการ “จากพระราชปณิธาน...สู่มรดกแห่งแผ่นดิน”
เป็นนิทรรศการทรงคุณค่าที่ได้รวบรวมภาพและเรื่องราวในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระราชกรณียกิจหลายๆ
ด้านสะท้อนถึงความยั่งยืน หรือ Sustainability ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์ในด้านนี้มาก่อนที่จะเป็นที่รู้จักในระดับสากล
อาทิ ทรงริเริ่มและส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า
โดยทรงเน้นแนวคิดให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนั้นยังทรงเน้นการสร้างอาชีพให้กับราษฎรเพื่อจะได้มีอาชีพที่มั่นคงในท้องถิ่น
โดยจัดแสดงออกเป็น 3
ส่วน ได้แก่
·
ประมวลภาพพระราชกรณียกิจ
ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของคนไทยในทุกด้าน
ตลอดพระชนม์ชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเป็นที่ประจักษ์ว่าทรงมีพระปรีชาสามารถในทุกด้าน
ภายในงานจะได้พบกับการประมวลภาพพระราชกรณียกิจตลอดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรม
ทรงมีพระวิริยอุตสาหะและความเสียสละเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรม
สิ่งแวดล้อม มนุษยธรรม การเสริมสร้างไมตรีกับมิตรประเทศ รวมถึงงานศิล ปาชีพ การอนุรักษ์ผ้าไทย
การต่อลมหายใจให้กับโขน ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ฯลฯ ล้วนเป็นรากฐานของความยั่งยืนทางสังคมและจิตใจ
·
“ชุดไทยพระราชนิยม” เครื่องแต่งกายประจำชาติ
สะท้อนพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จบรมราชชนนีพันปีหลวง
ภายในงานยังได้มีการจัดแสดง “ชุดไทยพระราชนิยม” โดยร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
และพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
พระบรมราชินีนาถ
ถ่ายทอดเรื่องราวอันเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ต่อวงการศิลปวัฒนธรรม ก่อให้เกิดรากฐานและความภาคภูมิใจในการอนุรักษ์และฟื้นฟูนานัปการ
ซึ่ง “ชุดไทยพระราชนิยม” เกิดขึ้นจากพระราชดำริที่ทรงเห็นความสำคัญของการแต่งกายแบบไทยในเวทีนานาชาติ
โดยทรงต้องการแสดงความเป็นไทยผ่านเครื่องแต่งกายให้ทั่วโลกได้ประจักษ์
จึงโปรดให้มีการศึกษาค้นคว้า ฟื้นฟู และออกแบบชุดไทยสำหรับสตรี
โดยทรงฉลองพระองค์ในการเสด็จพระราชดำเนินร่วมกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปยังสหรัฐอเมริกา
และประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ.2503
สำหรับ “ชุดไทยพระราชนิยม” 8
แบบที่นำมาจัดแสดงล้วนมีความประณีต และความเหมาะสมต่อโอกาสต่างๆ ดังนี้ ชุดไทยเรือนต้น
เหมาะสำหรับงานกึ่งทางการ ชุดไทยจิตรลดา เหมาะสำหรับงานทางการ ชุดไทยอมรินทร์
เหมาะสำหรับงานพิธีตอนค่ำ ชุดไทยบรมพิมาน เหมาะสำหรับงานพิธีการระดับสูงทั้งงานช่วงกลางวันและงานราตรี
ชุดไทยดุสิต เหมาะสำหรับงานพิธีตอนกลางคืน แทนชุดราตรีแบบตะวันตก ชุดไทยจักรี
เหมาะสำหรับงานแต่งงานหรืองานกลางคืน ชุดไทยศิวาลัย เหมาะสำหรับงานพระราชพิธี
หรือพิธีทางศาสนา และชุดไทยจักรพรรดิ เหมาะสำหรับงานพระราชพิธีสำคัญหรือในงานราตรีพิธีเต็มยศ
“ชุดไทยพระราชนิยม” สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านศิลปะการตัดเย็บ
การเลือกใช้ผ้า ลวดลายอันอ่อนช้อยงดงาม
งานช่างฝีมือเหล่านี้เกิดขึ้นจากการสั่งสมองค์ความรู้และฝีมือช่างไทยในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ
โดยพระราชกรณียกิจด้านการสนับสนุนผ้าไทยนั้นสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสมเด็จฯ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่
จะเห็นได้จากการที่ “ชุดไทยพระราชนิยม” กำลังจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก
ในปีพ.ศ.2569 อันเป็นก้าวสำคัญของการผลักดัน Soft Power ไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
·
หัวโขน จากโขนพระราชทานสู่
“มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” ของโลก
นอกจากนั้นภายในงานนิทรรศการยังได้เชิญหัวโขน จากอาคารเรียน-รู้-เรื่องโขน
ที่หาชมได้ยากมาจัดแสดง 4 หัว ได้แก่ พิเภก น้องชายของทศกัณฐ์
กายสีเขียว ตาจระเข้ ปากแสยะ หนุมาน พญาวานร ทหารเอกของพระราม อากาศตะไล
มีลักษณะตาโพลง ปากแสยะ เป็นยักษ์เสื้อเมืองที่รักษาด่านกรุงลงกา และพญานกสัมภาที
พี่ชายของนกสดายุ
การอนุรักษ์โขนคือหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์แก่กรมศิลปากรนำไปปรับปรุงเครื่องแต่งกายโขน ในปีพ.ศ.2546 จากนั้นทรงให้การสนับสนุนโขนเรื่อยมา และในปีพ.ศ.2550 มีการแสดงโขนโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในตอน “พรหมาศ”
พระราชกรณียกิจการฟื้นฟูโขนนับเป็นการพลิกฟื้นงานฝีมือช่างหัตถศิลป์ไทยหลายสาขา
โดยองค์การยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียนการแสดงโขนของไทยเป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ประเภท “รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ” นับเป็นการขึ้นทะเบียน
“มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” ขององค์การยูเนสโก รายการแรกของประเทศไทย
ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
และร่วมลงนามถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปงานฝีมือเพื่อน้อมรำลึก
และสืบสานพระราชกรณียกิจการอนุรักษ์งานฝีมือช่างไทย
และร่วมซื้อสินค้าที่ระลึกจากพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ และมูลนิธิศิลปาชีพฯ
ที่นำงานฝีมือมาร่วมจำหน่ายได้ในงานนิทรรศการ “จากพระราชปณิธาน...สู่มรดกแห่งแผ่นดิน”
ได้ตั้งแต่วันที่ 7-20 พฤศจิกายน 2568 ณ อาร์ต จีเวล
ชั้น 5 สยามพารากอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น